รอยสิว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนที่มีปัญหาสิว โดยเฉพาะเมื่อสิวหายไปแล้ว แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นหรือรอยดำไว้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลและไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง รอยสิวที่หายช้าหรือไม่หายขาดสามารถทำให้เรารู้สึกหมดกำลังใจในการรักษา แต่ความจริงแล้วมีวิธีต่างๆที่สามารถช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้นและฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นได้
ในบทความนี้จะพูดถึงสาเหตุที่ทำให้รอยสิวหายช้า และวิธีการที่สามารถช่วยเร่งการฟื้นฟูผิว รวมถึงวิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิวในอนาคต
สาเหตุที่ทำให้ รอยสิว หายช้า
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการรักษาและฟื้นฟูรอยสิวให้หายเร็วขึ้น เราควรเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้รอยสิวหายช้าเสียก่อน
- การอักเสบของผิวหนัง
เมื่อสิวเกิดขึ้น จะทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง ถ้าหากสิวถูกบีบหรือแกะจะทำให้ผิวหนังเสียหายมากขึ้น และเกิดแผลเป็นหรือรอยดำที่ยาวนานขึ้น การบีบหรือแกะสิวอาจทำให้เกิดการกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น และยิ่งทำให้การหายช้าลง - การกระตุ้นจากแสงแดด
รอยสิวที่ถูกโดนแสงแดดจะทำให้เกิดการฝังรอยดำลึกขึ้น เพราะรังสี UV จากแสงแดดจะกระตุ้นให้ผิวสร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รอยสิวที่มีอยู่แล้วดำขึ้นและยากที่จะหายในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งใครทายาสิวที่มีส่วนผสมของวิตามินเอยิ่งทำให้ผิวมีความไวต่อแสงมากขึ้น การอยู่บ้านเล่นหวยไวku ดูทีวีในวันที่ไม่ต้องทำงานการเลี่ยงแดดก็จะทำให้รอยสิวหายได้ไวขึ้น - การดูแลผิวไม่ถูกวิธี
การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่รุนแรงหรือมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวแห้งเกินไป อาจทำให้ผิวไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ และรอยสิวจะหายช้า - สภาพผิวที่ไม่แข็งแรง
ผิวที่อ่อนแอหรือมีการทำลายของชั้นผิวอย่างต่อเนื่องอาจทำให้กระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ช้าลง การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรือการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพก็มีผลต่อการฟื้นฟูผิว
วิธีเร่งการฟื้นฟู รอยสิว
เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้รอยสิวหายช้าแล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีการที่สามารถช่วยเร่งการฟื้นฟูและทำให้รอยสิวหายเร็วขึ้น
2.1 ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดรอยสิว
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดรอยแผลเป็นและรอยดำจากสิวเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม มีหลายตัวเลือกในตลาดที่สามารถช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิวได้ ได้แก่:
- วิตามินซี
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูผิวและลดรอยดำจากสิวได้ดี โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งทำให้รอยสิวจางลงและฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสขึ้น - กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid)
กรดไกลโคลิกเป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ส่งผลให้ผิวใหม่สามารถเติบโตได้เร็วขึ้น และช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว โดยสามารถใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกหรือกรดผลไม้ (AHA) - ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
ไนอะซินาไมด์ หรือวิตามินบี 3 ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งสามารถช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิวได้ดี - เรตินอล (Retinol)
เรตินอลช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดแผลเป็นและรอยสิวได้รวดเร็วขึ้น
2.2 เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสม
การเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ (ครีมบำรุงผิว) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวช่วยให้การฟื้นฟูผิวเร็วขึ้น และลดการเกิดแผลเป็นจากสิว ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน เช่น น้ำมัน หรือสารเคมีที่ระคายเคืองผิว
2.3 ปกป้องผิวจากแสงแดด
การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษารอยสิว รังสี UV จะกระตุ้นให้รอยสิวดำและยากที่จะหายได้ ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งที่ต้องออกแดด โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังรักษารอยสิว
2.4 การนวดหน้าด้วยน้ำแข็ง
การใช้ก้อนน้ำแข็งในการนวดหน้าช่วยลดการอักเสบและบวมของผิว การนวดด้วยน้ำแข็งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการระคายเคือง ซึ่งจะช่วยทำให้รอยสิวหายเร็วขึ้น
วิธีป้องกันไม่ให้เกิด รอยสิว ในอนาคต
การรักษารอยสิวให้หายเร็วขึ้นเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่การป้องกันไม่ให้สิวเกิดขึ้นใหม่ก็มีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นนี่คือวิธีการป้องกันที่สามารถช่วยให้คุณลดการเกิดสิวใหม่และรอยสิวในอนาคต
- หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว
การบีบหรือแกะสิวจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังและทิ้งแผลเป็นได้ง่าย ควรปล่อยให้สิวหายเองตามธรรมชาติ - ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอจะช่วยลดการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรกบนผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว - ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ โดยเฉพาะในเรื่องของการเลือกครีมบำรุงหรือโฟมล้างหน้า หากมีผิวมันควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมัน และหากมีผิวแห้งควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
สรุป
รอยสิวหายช้าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่การดูแลและรักษาผิวอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้นได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิว การให้ความชุ่มชื้น และการปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นวิธีที่สามารถช่วยได้ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิวเพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นในอนาคต หากรักษาผิวได้อย่างถูกต้องและมีความสม่ำเสมอ คุณจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีและฟื้นฟูผิวได้เร็วขึ้น